ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอก และภายในห้องโดยสารใหม่ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสปอร์ตพรีเมียมที่ยกระดับไปอีกขั้น พร้อมเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทางไปกับ Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า มาพร้อมขุมพลังแห่งนวัตกรรมทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้การขับขี่ที่เร้าใจแต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนตัวตนของคุณให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยสีใหม่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (Brilliant Sporty Blue)
Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า
มั่นใจในทุกเส้นทางด้วย Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า ที่ผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ได้แก่
การออกแบบภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Revolutionary Silhouette Advanced Neo Sedan” เน้นการออกแบบในสไตล์ที่ล้ำสมัยบนพื้นฐานการจัดวางโครงสร้างภายในอย่างมีระดับ ด้วยลักษณะตัวถังที่ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง ผสานกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สะท้อนรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อมกับอีกขั้นของดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่ท้าทายทุกสายตา ด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน สะท้อนเอกลักษณ์แห่งความสง่างามที่ลงตัวในทุกการขับขี่ ดีไซน์ดุดันยิ่งขึ้นด้วย
กันชนหน้าและกระจังหน้าในสไตล์สปอร์ตใหม่แบบ RS เชื่อมต่อกับไฟหน้าดีไซน์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light (DRL) ทั้งยังโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED รูปทรงตัว C (C-Identity) เอกลักษณ์แบบซีวิค ไฟตัดหมอกแบบ LED ตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียม กันชนหลังตกแต่งด้วยโครเมียมใหม่ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) เพิ่มความโฉบเฉี่ยวและให้ความรู้สึกหรูหรา พร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตใหม่ ดึงดูดทุกสายตา
เสากระจกบังลมหน้า (A-Pillar) ของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีทัศนวิสัยด้านหน้าที่กว้างยิ่งขึ้น ขณะที่แนวเส้นหลังคาลาดเทลงไปด้านหลัง เชื่อมต่อกับเสากระจกบังลมหลัง (C-Pillar) ได้อย่างกลมกลืน โดยที่แผ่นกระจกบังลมหลังโค้งสอดรับกับแนวตัวถังด้านท้ายทั้งสองมุมได้อย่างลงตัว
เพิ่มความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งจากโมดูโล (Modulo) ที่สะท้อนเอกลักษณ์ในแบบของคุณ อาทิ ไฟตัดหมอก สเกิร์ตข้าง คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า คิ้วตกแต่งกระจกมองข้างโครเมียม คิ้วกันสาดขอบโครเมียม สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก เป็นต้น
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
ห้องโดยสารของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ผสานความสปอร์ตพรีเมียมในทุกรายละเอียด โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายใน เบาะที่นั่งตกแต่งด้วยด้ายสีแดง มาพร้อมวัสดุตกแต่งคอนโซลแบบ Piano Black โดยภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment มีการเว้นระยะห่างช่วงสะโพกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าและพื้นที่ช่วงหัวเข่าของผู้โดยสารด้านหลัง ทั้งยังสะดวกด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ที่สามารถจุสัมภาระได้ 525 ลิตร
แผงหน้าปัดได้รับการออกแบบเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้พื้นที่ในส่วนของระบบปรับอากาศมีขนาดกะทัดรัด และส่งผลให้พื้นที่ช่วงหัวเข่ากว้าง มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ดีไซน์สปอร์ต ให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ ประกอบด้วย มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ มาตรวัดระดับเชื้อเพลิง และรอบเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่มีมาตรวัดความเร็วแสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล
แผงคอนโซลกลางได้รับการออกภายใต้แนวคิด “Tech Center” ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางเทคโนโลยี โดยด้านบนสามารถแยกออกเป็น 2 ชั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับช่องเชื่อมต่อได้อย่างเป็นระเบียบ นำเสนอฟังก์ชั่นที่ทันสมัยสำหรับความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง อาทิ หน้าจอแสดงผลการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Hands-free Telephone) สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์รับและวางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย พร้อมสวิตช์สั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri ช่องเชื่อมต่อ USB พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง อีกทั้งที่วางแก้วน้ำและช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง เพื่อความสะดวกในการจัดแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนตลอดพื้นที่คอนโซลกลาง เป็นต้น
เครื่องยนต์
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังเครื่องยนต์ ที่ผสานทั้งประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและสมรรถนะในการขับขี่ ได้แก่
1. เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้การขับขี่ที่เร้าใจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85
2. เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าวได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดแบบ flat torque 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 5,500 รอบต่อนาที โดยใช้เทคโนโลยีหัวฉีดไดเรคท์ อินเจคชั่น ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง พร้อมการออกแบบท่อไอดีแบบตรง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้รวดเร็วและปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร โดย 3 เทคโนโลยีหลักของ VTEC TURBO ที่ให้สมรรถนะอันทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ได้แก่
2.1 ระบบหัวฉีด ไดเรคท์ อินเจคชั่น และท่อไอดีแบบตรง
เครื่องยนต์ VTEC TURBO ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดไดเรคท์ อินเจคชั่น ซึ่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านหัวฉีดตรงไปยังกระบอกสูบ การไหลของไอดีแบบตรงช่วยให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยเพิ่มแรงบิดในทุกช่วงการทำงานของรอบเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
ระบบนี้ประกอบด้วยปั๊มแรงดันสูง และหัวฉีดแรงดันสูงแบบ multi hole สามารถฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในลักษณะฝอยละอองที่ละเอียดยิ่งขึ้น ช่วยให้อากาศที่ถูกส่งเข้ามาในห้องเผาไหม้ได้ผสมกับน้ำมันที่ถูกจ่ายลงมาได้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดมลภาวะในอากาศ
2.2 ระบบการควบคุมการเปิด - ปิดวาล์วแบบคู่ (Dual Variable Timing Control)
ที่สามารถแปรผันช่วงเวลาในการทำงานทั้งในส่วนของแคมชาฟต์ฝั่งไอดีและไอเสียได้อย่างอิสระ โดยจะปรับช่วงเวลาในการเปิดและปิดของวาล์วไอดีและวาล์วไอเสียให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่ที่แท้จริง จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกรอบการทำงานของเครื่องยนต์
2.3 เทอร์โบ ชาร์จเจอร์ ที่มีระบบควบคุมช่องระบายไอเสียส่วนเกินด้วยไฟฟ้า
สำหรับเครื่องยนต์ VTEC TURBO มีการใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบเวสท์เกตไฟฟ้า และใบเทอร์ไบน์ที่มีขนาดเล็กและเบา ทำให้การปั่นของใบเทอร์ไบน์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถึงแม้จะใช้ปริมาณไอเสียที่น้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการตอบสนองของคันเร่งที่ดีขึ้น ลดปัญหาอาการ Turbo Lag หรือ การตอบสนองของคันเร่งที่ล่าช้าหลังจากเหยียบคันเร่ง
ระบบส่งกำลัง
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT (Continuously Variable Transmission) ซึ่งพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ Earth Dreams Technology ที่โดดเด่นในเรื่องของความนุ่มนวล และให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนด้วยความเร็วคงที่ในช่วงรอบต่ำ และการที่ชุดเกียร์มีระยะอัตราทดที่กว้างจึงช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อใช้ความเร็วสูง
เกียร์ CVT ประกอบด้วยทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนพูลเลย์ ซึ่งสามารถปรับระยะอัตราทดได้กว้าง และพูลเลย์ทั้ง 2 ตัวนี้จะถูกเชื่อมด้วยสายพานที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง ด้านในของตัวพูลเลย์จะมีหน้าผิวสัมผัสที่เอียง ซึ่งตัวสายพานจะสัมผัสกับพื้นที่ตรงส่วนนี้และหมุนรอบอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางแปรผันกับการปรับระยะกางของพูลเลย์ ตามอัตราทดที่เหมาะสมระหว่างพูลเลย์ขับและพูลเลย์ตาม อัตราทดของเกียร์ CVT จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่จะอยู่ในช่วงของอัตราทดเกียร์ต้น และ อัตราทดเกียร์ปลายที่ถูกกำหนดเอาไว้
การกำหนดช่วงอัตราทดเกียร์สำคัญอย่างมากสำหรับเกียร์ CVT ซึ่งแตกต่างจากเกียร์อัตโนมัติแบบเดิมที่มีการกำหนดอัตราทดเกียร์ในแต่ละจังหวะเกียร์ไว้แล้ว นอกจากนี้ระบบเกียร์ CVT ของซีวิค ใหม่ จะปรับอัตราทดเกียร์จากจังหวะหนึ่งไปอีกจังหวะหนึ่งได้อย่างแม่นยำและราบรื่น เพราะมีระบบสมองกลคอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเกียร์เพื่อเลือกอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่ แตกต่างจากการเลือกอัตราทดเกียร์ของเกียร์อัตโนมัติทั่วไปที่ใช้การประมาณการณ์อัตราทดเกียร์ที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่
ระบบแชสซีส์
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้ออกแบบตัวรถบนพื้นฐานโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา โดยระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ รวมถึงระบบช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์ที่ได้รับการออกแบบมีจุดยึดบนซับเฟรมหลังที่แข็งแรงขึ้น และให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยม โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำบูชยางแบบ ไฮดรอลิกมาใช้ทั้งด้านหน้าและหลัง ซึ่งใช้กับรถยนต์รุ่นใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และช่วยลดแรงสั่นสะเทือน รวมทั้งยังมีการใช้เหล็กกันโคลงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และลดอาการโคลงตัวของรถได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น
ระบบเพื่อการประหยัดพลังงาน
ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ช่วยแนะนำให้ผู้ขับขี่ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างรู้คุณค่า โดยวัดจากการเหยียบเบรกและคันเร่ง ซึ่งจะแสดงผลด้วยการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดเรืองแสง
ระบบช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองโดยปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ทั้งยังช่วยปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีล้ำสมัย สะดวกสบายในทุกการขับขี่
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการขับขี่ ด้วยการควบคุมอย่างสะดวกง่ายดาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ
มาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือระดับ มั่นใจได้ในทุกการเดินทาง
นอกเหนือจาก เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING แล้ว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เพิ่มความมั่นใจอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ อาทิ
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น
รุ่น TURBO RS ราคา 1,219,000 บาท
รุ่น TURBO ราคา 1,104,000 บาท
รุ่น 1.8 EL ราคา 964,000 บาท
รุ่น 1.8 E ราคา 874,000 บาท
สี
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) และสีขาวแพลทินัม (มุก)
หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/civic